Enter your keyword

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาษาอังกฤษ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาษาอังกฤษ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557

ไม่เป็นไร ภาษาอังกฤษ ในสถานการณ์ต่างๆ

By ภาษาอังกฤษ On 05:26

ไม่เป็นไรภาษาอังกฤษพูดว่า ตัวอย่างประโยค

มีอยู่ครั้งนึง ขึ้นBTS กลับบ้าน แล้วมีฝรั่งคนนึงเดินมาชน เค้าก็บอกเราว่า oh! Sorry. ไอ้เราก็อยากจะพูดว่า ไม่เป็นไร แต่อยู่ๆก็นึกไม่ออกซะงั้น เลยได้แต่ยกมือบอกไม่เป็นไรแทน

กลับบ้านมา ด้วยความสงสัย ก็เลยมานั่งถามอากู๋ดู เลยได้ความรู้ใหม่มา วันนี้เลยจะมาแบ่งปันให้อ่านกัน

การบอกว่าไม่เป็นไร คนไทยจะใช้คำว่า "ไม่เป็นไร" กับทั้งคำขอบคุณ และคำขอโทษ แต่ฝรั่งเค้าจะใช้คำต่างกันนิดหน่อย ตัวอย่างเช่น

เวลามีคนพูดขอบคุณเรา:
You're welcome (ยัวร์ เวลคั่ม) แปลว่า ด้วยความยินดี  คำนี้เป็นคำที่ใช้กันบ่อย
It's was my pleasure (อิท วอส มาย เพลเชอร์) หรือ my pleasure เฉยๆ
Don't mention it (ด๊อนท์ เมนชั่น อิท) แปลตรงตัวคือ อย่าเอ่ยถึงมัน หรือ ไม่เป็นไร น่ะแหละ
It's not a problem (อิทส นอท อะ พร้อบเบล็ม) หรือ No problem สั้นๆก็ได้ แปลว่า ไม่มีปัญหา จ้า
No biggie (โน บื๊กกี้) หรือ No Big deal (โน บิ๊ก ดีล) แปลว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เวลามีคนมาขอโทษเรา:
No problem (โน พร้อบเบล็ม)
It's not a problem (อิทส นอท อะ พร้อบเบล็ม)
Don't worry about it (ด๊อนท์ วอร์รี่ อะเบ๊าท์ อิท)  แปลว่า ไม่ต้องคิดมาก อย่าไปกังวล
No worries (โน วอร์รี่)   เป็นคำสมัยใหม่ แปลว่า เราไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้กังวลอะไร ไม่เปนไรหรอก
It's OK (อิทส โอเค)
It's nothing (อิทส น้อทติง)

สิ่งที่น่าสนใจ
คำว่า Never mind (เนเวอร์ มายด์)ที่เราแปลกันว่า ไม่เป็นไร เนี่ย ความจริงแล้วฝรั่งเค้าไม่ใช้เพื่อตอบรับคำขอบคุณ หรือขอโทษกันนะ เค้าจะใช้เพื่อสื่อว่า "ช่างมันเถอะ" มากกว่า อย่างเช่น เวลาเราอธิบายอะไรเพื่อนฟัง แล้วเค้าไม่เข้าใจซะที เราจะบอกว่า เออช่างมันเถอะ ขี้เกียจอธิบายละ แบบเนี้ย เค้าจะใช้คำว่า Never mind


สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่าาา 

ไม่เป็นไรภาษาอังกฤษพูดว่า ตัวอย่างประโยค

ไม่เจ็บอย่างชั้นใครจะเข้าใจ T^T มาแปลเพลงกัน

By ภาษาอังกฤษ On 04:28

แปลเพลง ไม่เจ็บอย่างชั้นใครจะเข้าใจ ภาษาอังกฤษ



ละครสมัยนี้มันดราม่าขึ้นทุกวัน ชั้นก็ติดมันทุกเรื่อง 555 เรื่องสามีตีตราก็เป็นอีกเรื่องที่เค้าติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ถ้าไม่ดู เราจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่องนะฮ้าฟฟ

ถึงแม้ละครจะอวสานไปแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่วันนี้มานั่งฟังเพลง ก็ยังคงอินอยู่ ก็เพลงมันทั้งเศร้าทั้งเพราะ ฟังไปฟังมาก็นึกอยากเอามาแปลเป็นภาษาอังกฤษดู ได้ออกมาประมาณนี้

Are there any guys who give me honest love? [ยังมีอยู่จริงใช่ไหม คนรักที่ไม่หลอกกัน]
Are there any loves that like a dream one? [ยังมีอยู่จริงใช่ไหม ความรักที่เป็นดังฝัน]
I’m just afraid that you have me as a temporary fling. [
ฉันแค่กลัวว่าเธอนั้น จะมองฉันเป็นทางผ่าน]
Just like your girls in the past. [
อย่างใคร ใครที่เค้าเคยเข้ามา]

Yearning for love then I think it does not exists. [โหยหาจนมันไม่คิดว่ารักแท้มีอยู่จริง]
Yearning for someone then I don’t hope I’ll met some anymore. [โหยหาจนมันไม่หวังจะพบใครดีสักคน]
If right now it’s you, please let me know [
ถ้าเป็นเธอในวันนี้ ช่วยทำให้ฉันรู้ที]
that you’ve got the true love.  [
ว่าเธอมีความรักที่เที่ยงแท้]

Not being hurt like me, no one knows how love is horrible. [ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ว่ารักน่ากลัวเท่าไร]
Many are very good at first, but at last, it’s all just pretending. [กี่คนที่เขามาดีมากมาย แต่สุดท้ายหลอกกันทุกที]
I’ve lost of all feelings. Don’t want to love anyone anymore. [มันหมดไปแล้วทุกความรู้สึก ไม่อยากรักใครอีกวันนี้]
So please make me know that the true love really exists. [เธอช่วยบอกกับฉันที ว่ารักแท้มีอยู่จริง]

Everyone in the past always make me have bad dreams again and again. [ฝันร้ายอย่างเดิมซ้ำๆ กับทุกคนที่ผ่านมา]
And finally I sink in my tear. [สุดท้ายก็จมน้ำตา]
If, from now on, you makes me feel better [ถ้าเวลาจากวันนี้ เธอทำให้ฉันหายดี]
I might wake up from that bad dreams. [ก็คง ตื่นจากฝันที่มันร้าย]

คำศัพท์น่าสนใจจากที่ไปหามา ก็มีคำว่า Temporary fling (เทมโพรารี่ ฟลิง) เป็นคำนามที่ถ้าแปลเป็นไทยก็เหมือนคำว่า “คนคั่นเวลา” เราคิดว่าความหมายมันก็คือ ทางผ่าน อะไรแบบนี้ ก็เลยเอามาใช้  
อีกคำที่เราคิดว่ามันเจ๋งดีคือคำว่า Pretending (พรีเทนดิ้ง) คำนี้ก็เป็นคำนาม ฟังแล้วมันเจ็บจี๊ดๆ เหมือนแบบ เสแสร้งอะ เธอไม่รักชั้นแล้วเธอมาแกล้งทำเป็นรักทำไมอ้ะ (อินๆ 555)

เช่นเคย ปิดท้ายด้วย รูปละคร และเอ็มวีเพลงที่เป็นต้นเรื่องของหัวข้อบล๊อกในครั้งนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ :)
แปลเพลง ไม่เจ็บอย่างชั้นใครจะเข้าใจ ภาษาอังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

งานหนังสือ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต

By ภาษาอังกฤษ On 12:18

นิทรรศการ ภาษาอังกฤษพูดว่า

      วันนี้ไปงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติมา อย่างเหนื่อยอะ รถติดมากกกก ไม่รู้จะออกไปไหนกันเยอะแยะ ออกจากบ้านเที่ยงครึ่ง ถึงศูนย์ประชุมฯบ่ายสามโมง แม่เจ้าาา

      งานครั้งนี้ก็ครึกครื้นเหมือนเคย แต่ปีนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป รู้สึกว่าคนที่มางานทำไมมีแต่เด็กๆทั้งนั้น นี่มันงานเด็ก(ผม)ติ่งกะเด็ก(ผม)เกรียนแห่งชาติหรือไง คิดไปคิดมา เอ่ออ อายุอานามเราก็เบญจเพศแล้วนี่หว่า มิน่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่รุ่นน้องๆ หลานๆ เต็มไปหมด (T^T)

      แต่ทว่า!! เจ๊ก็ไม่ถอยค่ะ เดินๆเข้าไป 4 ชม.จ้า ได้หนังสือมา 7 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นแนวธุรกิจ (บ่งบอกถึงวัยมนุษย์เงินเดือนมาก) และก็มีแนวลึกลับๆ อ่านเพลินๆติดมานิดหน่อย ค่าเสียหายทั้งหมด ราวๆ1000 บาท

    ที่เล่ามานี่ยังไม่ได้พูดถึงภาษาอังกฤษเลย เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า...  ตอนที่เจ๊ลากขาเดินชมหนังสืออยู่นั้น หูก็พลันได้ยินเสียงตามสาย ประกาศให้เราระวังทรัพย์สินมีค่าของเรา เนื่องจากในงานมีคนพลุกพล่าน อาจจะมีการโจรกรรมเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันระมัดระวัง คนที่ประกาศเค้าก็ประกาศทั้งสองภาษา ไทย และอังกฤษ เจ๊ก็เลยได้รู้คำศัพท์เพิ่มอีกสองคำ นั่นคือคำว่า Exhibition (ออกเสียงประมาณว่า เอ็กซะบิ๊ชั่น) คำนี้เป็นคำนาม แปลว่า งานแสดง หรือ นิทรรศการ หรือเค้าก็หมายถึงงานแสดงหนังสืองานนี้นี่แหละ  อีกคำนึงที่ได้ยินเค้าพูดมา ก็คือคำว่า Crowded (คราวดิด อ่านคำว่าดิดเบาๆสั้นๆ) คำนี้เป็น ADJ จ่ะ แปลว่า เต็มไปด้วยฝูงชน ตัวอย่างประโยคก็คือ This exhibition is so crowded. แปลว่า งานแสดงนี้เต็มไปด้วยฝูงชนเบียดเสียด  อะไรประมาณนี้แหละจ่ะ

    เย่ๆนอกจากจะได้หนังสือดีๆกลับบ้านแล้ว ยังได้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพิ่มมาอีก เจ๊สบายใจละ เรียนกันวันละคำสองคำ มันต้องเก่งขึ้นมาบ้างแหละน่า เนอะะะ :)

  ปิดท้ายด้วยรูปหนังสือที่ได้มา ขอบคุณที่อ่านจนจบนะค้าา ^^
นิทรรศการ ภาษาอังกฤษพูดว่า