Enter your keyword

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tense เกี่ยวกับเวลา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tense เกี่ยวกับเวลา แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

Sometime/ sometimes/ some time สักครั้ง/บางครั้ง/สักพัก

By ภาษาอังกฤษ On 04:37

สักครั้ง บางครั้ง สักพัก ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง

สวัสดีค่า เดือนที่ผ่านมางานรุ้มเร้ามากๆ แต่วันนี้หาเวลามาฝึกภาษาอังกฤษได้แล้วน้า มาๆ เริ่มกันเลย
เชื่อว่าหลายคน คงคุ้นเคยกับคำว่า Sometimes (ซัม-ไทมส์)  ที่แปลว่า บางครั้ง บางที แต่รู้ไหมว่ามันมีอีก 2 คำ ที่อ่านออกเสียงคล้ายกันสุดๆ แต่ความหมายแตกต่างกันอยู่ ค่ะ นั่นคือ Sometime (ไม่เติม S)  กับ Some time(เขียนไม่ติดกันมาดูตัวอย่างประโยคกันดีกว่า

Sometime ใช้ระบุ”จุด”เวลาใดเวลาหนึ่ง ที่ไม่เจาะจงว่าเป็นเมื่อไร จะเป็นอดีต หรืออนาคตก็ได้ อาจแปลได้ว่า สักครั้งนึง / บ้าง เช่น
You should try it sometime. (ยู-ชู้ด-ทราย-อิท-ซัมไทม) คุณควรลองสักครั้งนะ
Give me a call sometime. (กี๊ฟ-มี-อะ-คอล-ซัมไทม) โทรหาฉันบ้างนะ
I think I saw him sometime last month. (ไอ-ธิ๊ง-ไอ-ซอว-ฮิม-ซัมไทม-ลาส-มั้นธ์) ฉันว่าฉันเคยเจอเค้าสักครั้งนึงเมื่อเดือนที่แล้ว

Sometimes ใช้สำหรับบอก”ความถี่” แปลว่า มีบ้างบางครั้ง ไม่บ่อย เช่น
It happen sometimes. (อิท-แฮพเพ่น-ซัมไทมส์) มันก็เคยเกิดขึ้นบ้างนะ /มันก็มีบ้าง ไม่บ่อย
I sometimes hate my job. (ไอ-ซัมไทมส์-เฮท-มาย-จ๊อบ) บางทีฉันก็เกลียดงานที่ทำอยู่นะ
We sometimes have lunch together. (วี-ซัมไทมส์-แฮฟ-ลันช์-ทูเกเธอร์) บางครั้งเราก็ไปกินข้าว(กลางวัน)ด้วยกัน

Some time เอาไว้บอก “ช่วง” หรือ “ระยะ”เวลาที่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แปลเป็นไทยว่า สักพัก/ สักระยะหนึ่ง เช่น
I need some time to get over my ex. (ไอ-นี้ด-ซัม-ไทม-ทู-เก๊ท-โอเวอร์-มาย-เอ๊กซ์) ฉันต้องการเวลาสักพักเพื่อลืมแฟนเก่า
He has been away for some time. (ฮี-แฮส-บีน-อะเวย์-ฟอร์-ซัม-ไทม์) เขาไม่อยู่สักพักแล้วค่ะ
Take some time to clear your mind. (เทค-ซัม-ไทม์-ทู-เคลียร์-ยัวร์-มายนด์) ไปทำสมองให้โล่งสักพักเถอะ


เป็นไงคะ งง กันไปเลยไหม 5555 ลองฝึกดูรูปประโยคเยอะๆ แล้วก็จะแยกได้เองนะคะ แต่ยังไงก็ตาม เวลาที่เราพูด มันจะออกเสียงคล้ายกันม้าก ดังนั้น อย่าไปซีเรียสกับมันค่ะ ค่อยมาจริงจังตอนฝึกเขียนก็แล้วกันเนอะ สำหรับวันนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบจ้า

สักครั้ง บางครั้ง สักพัก ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง
"บางทีชั้นก็อยากมีเวลาส่วนตัวสักแป๊บนะ ทำไมนายไม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยล่ะ"
[แบบนี้ก็ได้หรอ 555]


วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แทบจะไม่/ ไม่ค่อย ภาษาอังกฤษ

By ภาษาอังกฤษ On 22:35

แทบจะไม่ ไม่ค่อย ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง

สวัสดีเช่นเคยค่า วันนี้เรามีคำที่น่าสนใจ 1 คำมานำเสนอค่ะ นั่นคือคำว่า “แทบจะไม่  โดยก่อนที่จะเลื่อนลงไปอ่าน อยากให้เพื่อนๆลองเดากันดู ว่าจะพูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงค่ะ 

ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อกๆๆ

32...1...

หมดเวลาจ้า ^^ …เพื่อนๆบางคนอาจจะคิดถึงประโยค หรือวลีอะไรซักอย่าง แต่ความจริงแล้ว ในภาษาอังกฤษ มีคำง่ายๆ สั้นๆ ที่แปลว่า “แทบจะไม่” อยู่นะคะ  คำนั้นก็คือ Hardly (ฮาร์ดลี่) ค่ะ  มาดูตัวอย่างประโยคกัน

I hardly know you. (ไอ-ฮาร์ดลี่-โนว-ยู) ฉันแทบจะไม่รู้จักคุณเลย

He hardly goes to school. (ฮี-ฮาร์ดลี่-โกส์-ทู-สคูล) เขาแทบจะไม่ไปโรงเรียนเลย / เขาไม่ค่อยไปโรงเรียน

I could hardly hear the speaker. (ไอ-คู้ด-ฮาร์ดลี่-เฮียร์-เดอะ-สปีคเกอร์) ผมไม่ค่อยได้ยินเสียงคนพูดเลย

It's hardly a secret that they are engaged. (อิทส์-ฮาร์ดลี่-อะ-ซีเครท-แด๊ท-เดย์-อาร์-เอนเกจ) มันแทบไม่เป็นความลับเลยนะ เรื่องที่พวกเขาหมั้นกันอะ


เป็นไงคะ ง่ายนิดเดียวเอง   หวังว่าเมื่อมีโอกาส เพื่อนๆจะไม่ลืมหยิบคำนี้มาใช้นะคะ  สำหรับวันนี้ขอบคุณที่อ่านจนจบจ้า
แทบจะไม่ ไม่ค่อย ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง

ไม่ค่อยมีที่สำหรับตู้เสื้อผ้าเลย ..แต่ก็นะ..ชั้นก็มีปลอกคออยู่แค่ 3 อัน 

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ตรงเวลา/ทันเวลา In time หรือ on time??

By ภาษาอังกฤษ On 00:19

ตรงเวลา ทันเวลาภาษาอังกฤษพูดว่า ตัวอย่าง

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามาเสนอวลีเกี่ยวกับเวลาค่ะ หลายคนมักจะเลือกไม่ถูก ว่าจะใช้คำไหนดี นั่นคือคำว่า in time กับ  on time  สองคำนี้ความหมายต่างกัน  มาดูกันเลยว่าแต่ละคำใช้ยังไงค่า

In time (อิน-ไทม์) แปลว่า ก่อนเวลานิดหน่อย  เรียกว่า ทันแบบฉิวเฉียดก็ได้ เช่น นัดส่งงาน 9 โมง แต่เราส่ง 8.55 เป็นต้น

ตัวอย่างการใช้  in time
I delivered the report in time for him to read it before the meeting. (ไอ-เดลิเวอร์ด-เดอะ-รีพอร์ท-อิน-ไทม์-ฟอร์-ฮิม-ทู-รีด-อิท-บีฟอร์-เดอะ-มีททิ่ง) ผมส่งรายงานให้ท่านอ่านก่อนเวลาประชุมนิดหน่อย
I got to town in time to catch the last train. (ไอ-ก๊อท-ทู-ทาวน์-อิน-ไทม์-ทู-แคช-เดอะ-ลาส-เทรน) ฉันเข้าเมืองทันขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายพอดี

On time (ออน-ไทม์)  แปลว่า ตรงเวลาเป๊ะ เข่น ส่งงาน 9 โมงเป๊ะตามกำหนดค่ะ

ตัวอย่างการใช้ on time
The train was on time. (เดอะ-เทรน-วอส-ออน-ไทม์) รถไฟมาตรงเวลา

The project was completed on time.  (เดอะ-โปรเจค-วอส-คอมพลีทเทด-ออน-ไทม์) โครงงานนี้เสร็จตามเวลาที่กำหนด

ตรงเวลา ทันเวลาภาษาอังกฤษพูดว่า ตัวอย่าง

ภาพจาก youtube.com แชนแนลของ Antonia Romaker จ้า

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

ศัพท์ใหญ่ประจำวัน_ผัดวันประกันพรุ่ง

By ภาษาอังกฤษ On 23:40

พลัดวันประกันพรุ่ง ภาษาอังกฤษแปลว่าตัวอย่าง

สวัสดีค่า วันนี้เรามีคำศัพท์ที่ เราจะเรียกว่าเป็น ศัพท์ใหญ่ คือจะว่ายาก ก็ยาก แต่เราก็ใช้อยู่ประจำเหมือนกันนะ ในภาษาอังกฤษ ก็มีอยู่หลายคำ วันนี้เราจะเสนอคำว่า Procrastinate ค่ะ

คำว่า Procrastinate อ่านว่า โพรแครสทิเนท  เป็นคำกริยา แปลว่า ผัดวันประกันพรุ่ง  หรือการเลื่อนกำหนด เลื่อนเวลาออกไปเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ  เพื่อเพิ่มความเข้าใจและช่วยในการจดจำ เรามาดูตัวอย่างประโยคกันค่ะ

Please do it now, don’t procrastinate.(พลีส-ดู-อิท-นาว. ด๊อนท์-โพรแครสทิเนท)  ทำตอนนี้เลยนะ อย่าผัดวันประกันพรุ่งล่ะ

If she doesn’t procrastinate so much, she could finish her homework in time.(อีฟ-ชี-ดาซซึ่น-โพรแครสทิเนท-โซ-มัช. ชี-คู้ด-ฟินนิช-เฮอร์-โฮมเวิร์ค-อิน-ไทม์)  ถ้าเธอไม่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย เธอก็คงทำการบ้านเสร็จก่อนเวลาแล้ว

I missed my opportunity because I took too long to procrastinate. (ไอ-มิซท์-มาย-ออพพอร์จูนนิที่-บีคอร์ส-ไอ-ทูค-ทู-ลอง-ทู-โพรแครสทิเนท)  ฉันพลาดโอกาสดีๆไป เพราะมัวแต่ผัดวันไปเรื่อยๆนี่แหละ


เป็นไงคะศัพท์ใหญ่คำนี้  นักเรียนมัธยมมักโดนบอกให้ท่องสมัยสอบเอนท์ แต่จริงๆเราก็สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้เหมือนกัน  ลองศึกษาประโยคแล้วนำไปพูดกับคนรอบข้างแบบเท่ๆได้เลยนะคะ รับรองหลายคนต้องอึ้งในภาษาอังกฤษของเราแน่นอน   ^^ ขอบคุณที่อ่านจนจบจ้า

พลัดวันประกันพรุ่ง ภาษาอังกฤษแปลว่าตัวอย่าง
Procrastinate = do it later
credit ภาพจาก www.paulthecounsellor.com.au

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

everyday กับ every day ต่างกันนะ รู้ยัง??

By ภาษาอังกฤษ On 01:07

everyday กับ every day ความหมายภาษาอังกฤษ

(1) --- "I go to school everyday."
(2) --- "I go to school every day."
แบบไหนถูก.... ให้ทาย....

วันหยุดที่ผ่านมาเราไปนั่งฟังอาจารย์ท่านหนึ่งบรรยายเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เลยได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนๆค่ะ เป็นคำที่เราใช้กันอยู่บ่อยๆ และมีหลายคนที่ใช้กันผิดด้วย  นั่นคือคำว่า Everyday  ซึ่งความจริงคำที่เราคิดว่าน่าจะได้ใช้กันบ่อยๆในชีวิตประจำวัน จะต้องเป็น every day นะ
อ้าวแล้วมันต่างกันหรอ ??

ใช่!! มันต่างกันนะจ๊ะ คำว่า Everyday เป็นคำคุณศัพท์ หรือ Adjective ซึ่งเอาไว้ขยายคำนาม อย่างเช่น Everyday Life(ชีวิตในทุกๆวัน), Everyday Cooking (การทำอาหารซึ่งเกิดขึ้นทุกวัน), Everyday look (ใช้เรียกสไตล์การแต่งหน้าแบบที่แต่งได้ทุกวัน)

จากตัวอย่าง จะเห็นว่า Everyday จะต้องตามด้วยคำนามเสมอ ในขณะที่ Every day เป็น adverb ประกอบด้วยคำสองคำ คือ Every(adj.) กับ Day(n.) เอาไว้ขยายคำกริยา จ่ะ ตัวอย่างเช่น  We have to learn every day. (คนเราต้องเรียนรู้ในทุกๆวัน), He reads a newspaper every day.(เขาอ่านหนังสือพิมพ์ทุกวัน)
สังเกตว่า every ตามด้วย day ซึ่งเป็นคำนามอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีคำนามตามหลังอีก

ดังนั้นเฉลยประโยคที่ถูกต้อง จะต้องเป็นแบบ (2) --- I go to school every day (ผมไปโรงเรียนทุกวันเลยค้าบ) นั่นเองจ้า

สุดท้ายขอฝากการ์ตูนช่วยจำเกี่ยวกับ Everyday และ Every day จากเว็บ https://grammarchickens.wordpress.comค่า
everyday กับ every day ความหมายภาษาอังกฤษ
 ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ Love U Every Day จ้า

วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Everything หรือ Every thing กันแน่??

By ภาษาอังกฤษ On 03:18

Everything กับ Every thing ภาษาอังกฤษ ต่างกัน แปล

วันนี้อยู่ๆเราก็มีคำถามขึ้นมา ตามหัวข้อนั่นแหละ ว่า every thing  ที่แปลว่า ทุกสิ่ง เนี่ย มันเขียนติดกัน หรือมีเว้นวรรคกันแน่ 0.0" ก็เลยถามน้องสาวและgoogleเพื่อนสนิท ได้ความมาว่า...

ความหมายเหมือนกันเลยจ้า

 แต่จากเว็บ  เค้า recommend ให้ใช้ everything แบบเขียนติดกันมากกว่า จะเป็นสากลมากกว่านะ

พูดถึง everything แล้ว จะนึกถึงคำถามที่หลายๆคนมักจะสงสัย (รวมถึงข้าพเจ้าด้วย ..ไม่เคยจำซักที 555)
ว่าในประโยคเนี่ย everything มันเป็นเอกพจน์(Singular) หรือพหูพจน์(Plural) กันแน่ 

วันนี้เราเลยจะมาบอกว่า เป็น เอกพจน์ นะจ๊ะ ^^

ดังนั้น ในประโยค เราจะใช้ Verb.ช่วยเป็น is ดังนี้
Everything is gonna be alright. ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแล้ว

แม้แต่ประโยคปฏิเสธ ก็ใช้ is นะ ตัวอย่างเช่น
Not everything that's learned is contained in books 
ทุกอย่างที่เราเรียนรู้ ใช่ว่าจะมีอยู่ในตำราเสมอไปนะจ๊ะ


วันนี้ก็ขอลาไปด้วยภาพการ์ตูน ที่แสดงตัวอย่างการใช้ everything ได้อย่างเห็นภาพเลยทีเดียวค่ะ
Everything กับ Every thing ภาษาอังกฤษ ต่างกัน แปล
Thanks Google for the image ka ^^



วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คำว่า “เคย” ภาษาอังกฤษ ภาคสอง

By ภาษาอังกฤษ On 21:17

เคย ไม่เคยภาษาอังกฤษพูดว่าพร้อมตัวอย่าง



มาต่อกันจ้าสำหรับคำว่า เคย
สำหรับบางคนที่ถามว่า อ่าวแล้วคำว่า have/has ever ล่ะ เค้าใช้ในสถานการณ์ไหน ส่วนใหญ่แล้วที่เคยเจอ มันจะอยู่ในประโยคคำถาม อย่างเช่นในบทความที่แล้ว Have you ever been to Thailand? คุณเคยไปเมืองไทยมั้ย หรือ Have you ever loved me? คุณเคยรักชั้นมั้ยยยอ้ะ ><

นอกจากประโยคคำถามแล้ว เรายังมีการใช้กับประโยคที่เป็นขั้นสูงสุด โดยรูปแบบจะเป็น have/has + ever + V.3 อย่างเช่น This is the best book I’ve ever read.(ดีส อีส เดอะ เบส บุ๊ก ไอฟ์ เอเวอร์ เรด) นี่เป็นหนังสือที่ดีที่สุดที่ฉันเคยอ่าน , You are the best thing I’ve ever had.(ยู อาร์ เดอะ เบส ติง ไอฟ์ เอฟเวอร์ แฮด) คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ชั้นมี (อร๊ายย ซึ้ง)

พูดถึงประโยคบอกเล่าก็แล้ว คำถามก็แล้ว แล้วประโยคปฎิเสธล่ะ ถ้าเราจะบอกว่า “ไม่เคย” เนี่ย จะพูดยังไง

คุ้นๆมั้ยจ๊ะกับคำว่า never ที่แปลว่า ไม่เคย เราจะใช้คำนี้แหละในการบอกว่า เราไม่เคยทำสิ่งนี้ รูปแบบการใช้คือ have/has + V3. เช่น I’ve never done that (ไอฟ์ เนเวอร์ ดัน แดท). ฉันไม่เคยทำอย่างงั้น , He has never seen that before(ฮี แฮส เนเวอร์ ซีน แดท บีฟอร์). เขาไม่เคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน 

นอกจากนี้เราสามารถใช้ have been มาเติม not ให้เป็นรูปปฎิเสธได้ เช่น I haven’t been there (ไอ แฮฟเวิ่นท์ บีน แดร์)  ฉันไม่เคยไปที่นั่น. You haven’t been practicing your English! (ยู แอฟเวิ่นท์ บีน แพรคทีสซิ่ง ยัวร์ อิงลิช) เธอไม่เคยฝึกภาษาอังกฤษเลยนะ!! หรือจะใช้ never+ V.2 ก็ได้ เช่น You never told me anything!(ยู เนฟเวอร์ โทลด์ มี เอนนี่ติง) คุณไม่เคยบอกอะไรชั้นเลย!! เป็นต้น จ้า

หมดแล้วจ่ะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้า ขอบคุณที่อ่านจนจบคับ ^^
เคย ไม่เคยภาษาอังกฤษพูดว่าพร้อมตัวอย่าง

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Have you ever? คำว่า “เคย” ภาษาอังกฤษ

By ภาษาอังกฤษ On 22:38

คำว่า เคย ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง

คำว่า เคย ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง



คำว่า เคย ฟังดูง่ายๆเนอะในภาษาไทย แต่หลายครั้งที่เวลาเราจะพูดเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็นึกไม่ออก 
ส่วนตัวเราแต่ก่อนก็ใช้แต่คำว่า have+ ever เช่น I’ve ever do this. ฉันเคยทำแบบนี้ ซึ่ง!! แบบนี้ผิดนะจ๊ะ ฝรั่งฟังแล้วอาจจะงงได้ แล้วแบบไหนละฝรั่งถึงไม่งง..
 
คำว่า เคย ตามความหมายในภาษาอังกฤษ มันจะแยกเป็นสองอย่าง คือ เคยทำเป็นประสบการณ์ (ซึ่งอาจจะทำอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้) กับอีกอย่างคือ เคยทำ แต่ตอนนี้ไม่ทำแล้ว
       
   คำว่า เคยทำเป็นประสบการณ์ เราจะใช้ present Perfect Tense (แน่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกับแกรมม่ากันนะ) โดยใช้คำว่า have/has + V3 ตัวอย่างเช่น พวกเราเคยไปเที่ยวอเมริกา จะพูดว่า We have been to America. (วี แฮฟ บีน ทู อเมริกา) หรือ ถ้าจะบอกว่าเราเคยทำอะไรสักอย่างเป็นประสบการณ์ เราจะใช้ have/has + been + V.ing เช่น วดีเคยทำงานที่บริษัทนี้สามเดือน จะบอกว่า Wadee has been working at this company for three months. (วดี แฮส บีน เวิร์คกิ้ง แอท ดีส คอมพะนี ฟอร์ ทรี มั้นส์) ถ้าเป็นประโยคคำถาม เช่น คุณเคยไปเมืองไทยรึเปล่า ก็ใช้ Have you ever been to Thailand? (แฮฟ ยู เอเวอร์ บีน ทู ไทยแลนด์) ถ้าใช่ ก็ให้ตอบว่า Yes, I have (เยส ไอ แฮฟ) ถ้าไม่เคย ก็ No, I have never been there (โน่ว.. ไอ แฮฟ เนเวอร์ บีน แดร์)
      
   ส่วนคำว่า เคยทำ แต่ตอนนี้ไม่ทำแล้ว เราจะใช้ used to + V.1 อย่างเช่น I used to wake up early. ฉันเคยตื่นเช้า (แต่ตอนนี้ตื่นเที่ยงจ้า) หรือ I used to love you. ฉันเคยรักเธอ (แต่ตอนนี้หน้ายังไม่อยากมองเลยย่ะ) หรือ I used to go to Chiang Mai every months. ฉันเคยไปเชียงใหม่ทุกเดือน (แต่ตอนนี้ตังหมด เลยเปลี่ยนเป็นไปทุกปีแทน)

บทความเริ่มยาวละ ไปต่อในบทความหน้าดีกว่า เรื่องที่จะพูดถึงนะ จะเป็นเรื่องของคำว่า I've ever ที่เราเคยเข้าใจผิดกัน ว่าเค้าใช้ในสถานการณ์ไหนกันแน่ แล้วคำว่า “ไม่เคย” ล่ะ พูดยังไง ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ :)

 Have you ever? เพลงเพราะตลอดกาลของ S club 7 จ้า