Enter your keyword

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โม้ โอเว่อร์ ภาษาอังกฤษใช้ว่าอะไร

By ภาษาอังกฤษ On 22:07

โม้ โอเวอร์ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง



วันก่อนเพื่อนที่อินเดียแชทมาคุยในเฟสบุ๊ก สงสัยจะไม่ได้เม้าท์กันนาน Heมาซะเต็ม คุยโม้ไปซะทุกเรื่อง
 ได้โปรเจคดีๆทำมั่งล่ะ ย้ายไปอยู่ที่นิวเดลีมั่งล่ะ อาหารอร่อยสุดยอดบ้างล่ะ จนบางทีก็รู้สึกว่า เอ๊ะ นี่มันเวอร์ไปละ 
ก็เลยบอกเพื่อนไปตรงๆว่า I think it’s over 
ฮ่าๆๆๆ  เขินจัง พิมเร็วเกินไป ไม่ทันคิดว่า ภาษาอังกฤษเค้าไม่ใช้แบบนี้ It’s over มันแปลว่า มันจบแล้ว ต่างหากเล่า ยัยเอ๋อ!!  
 เพื่อนอ่านจบก็งงอะดิ เม้าท์กันอยู่ดีๆมาบอกแบบนี้ ><  
เราก็เลยรีบพิมไปใหม่ ว่า sorry, I mean I think you are exaggerating. Hahaha (ซอรี่ ไอ มีน ไอ ติ๊ง ยู อาร์ เอกแซกเจอเรทติ้ง ฮ่าๆๆ) แปลว่า โทษที ชั้นหมายความว่า แกอะกำลังพูดโอเวอร์เกินไปน่ะ  


คำว่า exaggerating นะคะ เป็นคำกริยา แปลว่า พูดเวอร์ พูดเกินจริง ตีโพยตีพาย ซึ่งนอกจากเราจะใช้ในรูปแบบคำกริยาแล้ว
เราสามารถใช้คำนี้ในรูปแบบคำนามได้ โดยพูดว่า I think that was an exaggeration. (ไอ ติ๊ง แดท วอส แอนด์ เอกแซกเจอเรชั่น) ชั้นว่ามันเวอร์เกินนะ/ชั้นว่าแกโม้แล้วล่ะ แบบนี้ก็ได้จ้า


แถมๆ ถ้าสิ่งที่เว่อร์เนี่ยไม่ใช่คำพูด แต่เป็นกริยาท่าทาง เราจะใช้คำว่า overacting (โอเวอร์แอคติ้ง) อย่างเช่น she is overacting. ยัยนี่ทำท่าได้เวอร์มาก นะจ๊ะ
 
สุดท้ายเอามุขตลกของคำว่า exaggerate มาให้ดูกัน 
โม้ โอเวอร์ภาษาอังกฤษ พูดว่า ตัวอย่าง

ฉันบอกแกเป็นพันล้านครั้งแล้วนะ ว่าอย่าพูดเกินจริง  (พันล้านครั้ง?? ไม่เกินจริงเลยนะแม่คู้ณณณ)

ฮ่าๆ ขอบคุณที่อ่านจนจบจ่ะ คนอ่านน่ารักเว่อร์ๆ ^^


วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เจ็บที่รักแต่ไม่อาจให้เธอรู้ ...แปลเพลงเป็นอังกฤษ EP2 จ้า

By ภาษาอังกฤษ On 04:43

แปลเพลงเจ็บแค่ไหนก็ยังรักอยู่เป็นภาษาอังกฤษ

แปลเพลงเจ็บแค่ไหนก็ยังรักอยู่เป็นภาษาอังกฤษ


โหหห กระแสแปลเพลงในบทความที่แล้ว ได้feedback ดีมากๆๆ จากเพื่อนๆ มีแต่คนขอให้ทำอีก คราวนี้ละครที่ฮิตติดลมบนที่สุดจะเป็นเรื่องอะไรไม่ได้นอกจาก "อย่าลืมฉัน" พี่ติ๊กสุดหล่อ พี่ก้องแสนอบอุ่น อร๊ายยย ><  และคนที่ร้องเพลงประกอบละคร ก็ยังคงเป็นวงเดิม Yes'sir days feat. ฟิล์ม บงกช นั่นเอง และก็ยังคงความเพราะ จี๊ดใจหลายๆคน เอาล่ะ เรามาแปลเพลงนี้เป็นภาษาอังกฤษกัน เพลงนี้ชื่อว่า "เจ็บแค่ไหนก็ยังรักอยู่" จ้า

รักของฉันอาจดูไม่รู้ เพราะรักของฉันมันคงซ่อนอยู่
My love may not be noticeable. That’s because it’s still hidden.
ส่วนลึกภายในของหัวใจ จนเกินจะหยั่งรู้ได้

In the deep of my heart, so it’s too hard to found.
รักของฉันอาจมองไม่เห็น เหมือนว่าฉันเป็นคนเยือกเย็น

My love may not able to be seen. It’s like I’m an unfeeling person.
แต่ฉันก็ทรมานทั้งหัวใจ ในสิ่งที่มันเป็นไป
But my heart is suffer from things that happened.


* อาจดูว่าฉันคนนี้ไม่มีหัวใจ ไม่เหลือความทรงจำที่ผ่านมา

It may seem like I have no heart. No memories left.
อาจดูว่าฉันคนนี้ไม่มีน้ำตา แต่ข้างในหัวใจ
It may seem like I have no tears. But my heart... 


** เจ็บที่รักแต่ไม่อาจให้เธอรู้ เจ็บที่ฉันต้องปิดบังซ่อนอยู่
Hurts because of love but can’t let you know. Hurts because I have to hide it.
ทุกวันต้องทำให้ดูว่าฉันไม่เป็นอะไร

Every day I have to pretend to be fine.
 เจ็บแค่ไหนก็ไม่อาจให้เธอรู้ เจ็บแค่ไหนก็ยังรักอยู่
Can’t let you know, and still love even though it’s so hurt.
ห้ามใจอย่างไรไม่รู้ ให้ฉันหยุดคิดเรื่องเธอสักที
Don’t know how to stop my heart from thinking about you.


ทุกทุกครั้งเธอคงไม่รู้ ใจของฉันที่มันซ่อนอยู่

Every times, you may don’t know my heart that is hiding.
แบกรับความทรมานสักเท่าไร ในสิ่งที่เธอทำไป
How much I must suffer from things that you did.

(*),(**),(**)
ห้ามใจอย่างไรไม่รู้ ให้ฉันหยุดรักเธอไปสักที

Don’t know how to stop my heart from loving you.

แปลเพลงรอบนี้รู้สึกจะแปลค่อนข้างตรงตัว ไม่มีสำบัดสำนวนอะไรมากมาย เลยขอเสนอแกรมม่าเล็กน้อยละกัน
คำว่า suffer (ซัฟเฟอร์) นะจ๊ะ แปลว่า ทนทรมาน ทุกข์ทรมาน กับอะไรสักอย่าง คำที่ใช้คู่กับ suffer มีสองคำ คือ with กับ from โดย suffer with .. กับ suffer from ความหมายไม่ต่างกัน แต่เวลาใช้อาจต่างกันเล็กน้อย

suffer with มักจะใช้กับการที่เราทุกข์ทรมานกับโรคต่างๆ เช่น He suffers with a cold. เขาทนทรมานกับการเป็นหวัด หรือง่ายๆก็คือ นายนี่เป็นหวัด นั่นเอง
suffer from  มักจะใช้กับเวลาที่มีคนหรือสิ่งใดๆมาทำให้เราต้องเป็นทุกข์ เช่นการอกหัก
ตัวอย่างประโยคก็เช่น he suffers from a broken heart แปลว่า เขาอกหัก หรืออย่างที่เห็นในเพลงนี้แหละจ้า

เช่นเคย ปิดท้ายด้วยเอ็มวี จาก Youtube จ้า ขอบคุณที่อ่านจนจบจ่ะ

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มาอ่าน brand name ยี่ห้อต่างๆให้ถูกกัน

By ภาษาอังกฤษ On 22:48

คำอ่านยี่ห้อ brand name ภาษาอังกฤษ

เพื่อนที่ทำงาน ไปเที่ยวอเมริกา กำลังจะกลับมาเดือนหน้า  เอาละสิ สาวๆในแก๊งก็ list รายการฝากซื้อกันใหญ่เลยจ้า งานการไม่ทำ มานั่ง search เว็บหาเครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า และก็เม้าท์กันว่ายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนสวย ไอ้เราที่เป็นคนไม่ติดแบรนด์ ก็คุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง เพราะไม่รู้จักเลยจ้า ว่าชื่อแบรนด์นี้มันคืออะไร บางแบรนด์ฟังชื่อแล้วก็งง อ่านว่าอะไรนะ... ก็ได้แต่ อ๋อหรอ อืมๆ ช่ายๆ เนียนๆไป

ด้วยความที่ไม่อยากเสียฟอร์ม และก้อยากให้ทุกคนได้รู้จักชื่อแบรนด์ต่างๆ จะได้เอาไปเม้าท์กับเพื่อนๆได้ถูกในคราวหน้า เราก็เลยไปหาข้อมูลมาให้ เป็นชื่อเรียกของแบรนด์ต่างๆ หวังว่าคงจะได้ใช้กันนะ ^^

AIIZ                           >   เอทูแซด , เอทูซี
Asos                           >   เอซุส , เอซอส
Agnes b'                      >   อานยาส เบ
Anna sui                     >   แอนนาซุย
Adidas                        >   อดิดาส , อดิแดด
BURBERRY                 >   เบอเบอรี่
BVLGARI                    >   บุลการี
Balmain                     >    บาลแมง
Body Glove                 >   บอดี้โกลฟ
BALENCIAGA              >   บาเลนเซียก้า , บาลองเซียก้า ตามชื่อ Cristobal Balenciaga ดีไซเนอร์ชาวสเปน ผู้ก่อตั้งแบรนด์
Celine                        >   ซีลีน
Chaps                        >   แชปส์
Cath kidston                >   แคท คิดสตัน (คิด-ออกเสียง s นิดนึง - ตั้น ไม่ใช่ คิด-สะ-ตั้น)
Casio                         >   คาสิโอ้
CC-OO                       >   ซีซีดับเบิ้ลโอ
Coach                         >   โคช
Converse                     >   คอนเวิร์ส
Chloe                         >   โคลเอ้
Chanel                       >   ชาแนล
Comme des Garcons     >   กอมเดกาซง
Charles & Keith            >   ชาร์ล แอนด์ คีธ , เคท
Dior                           >   ดิออร์
Disaya                        >   ดิษยา (อันนี้แบรนด์ไทย)
DKNY                         >   ดีเคเอ็นวาย (Donna Karan New York )
Diesel                         >   ดีเซล
Dooney & bourke          >   ดูนี่ แอนด์ เบิร์ก
Dr.martens                   >   ด็อกเตอร์มาติน ,  ด็อกเตอร์มาเต็น
Dolce & Gabbana         >   โดลเช่ , ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า
Domon                       >   โดมอน
Etienne Aigner            >    อีเทียน แอคเนอร์
Ermenegildo zegna      >    แอร์เมเนจิลโด้ เซนย่า
ESPRIT                       >   เอสพรี
Etude                         >   อีทูดี้
ELLE                          >   แอล
ECCO                         >   เอคโค่
Fly now                      >   ฟลายนาว
Forever 21                   >   ฟอร์เอฟเวอร์ ทเวนตี้วัน
Fubu                         >   ฟุบุ
Fallen                         >   ฟอลเลน
Fila                             >   ฟีล่า
Fred perry                  >   เฟรด เพอร์รี่
Furla                          >   เฟอร์ลา , ฟูล่าร์
FBT                            >   เอฟบีที
Gucci                         >   กุชชี่
Givenchy                     >   จีวองชี
Guess                         >   เกสส์
G2000                        >   จีทูเธาว์สัน
Gap                           >   แก๊ป
Guy Laroche               >   กีลาโรซ
Giorgio Armani            >   จอร์โจ อาร์มานี ,  จิออร์จิโอ อาร์มานี
greyhound                  >   เกรฮาวด์
H&M                          >   เอช แอนด์ เอ็ม
Harrod                        >   แฮร์รอดส์
Hermes                      >   แอร์-เมส , เฮอเมส
IKEA                         >   อิเกีย ,ไอเกีย
Issey miyake               >   อิซเซ่ มิยาเกะ
Jaspal                         >   ยัสปาล , จัสปาล
Kipling                        >   คิปลิงค์
Kyra                          >   ไคร่า
Kenzo                        >   เคนโซ่
Kloset                        >   โครเซท
Kate spade                 >   เคท สเปด
Lexus                        >   เลคซัส
LOEWE                      >   โลเอเว่
Lacoste                       >   ลาคอสต์
Louis Vuitton               >   หลุย(ไม่มี ส์)วิตตอง
Lancome                    >   ลังโคม
Levi's                          >   ลีวายส์
LYN                            >   ลินน์
Lanvin                        >   ลองแวง
Lowe alpine                 >   โลว์ แอลป์ , โลว์ อัลไพน์ , โลเว่ อัลปิเน่(อิตาเลี่ยนใช้)
Mango                        >   แมงโก้
Muji                            >   มูจิ
MARC JACOBS              >   มาร์ชเจค็อบ , มาร์ชจาค็อบ ออกเสียง"เคอะ"กับ S ด้วยก็จะดี
Mc                             >   แม็ค
Milin                          >    มิลิน
Mulberry                     >   มัลเบอรี่
Moschino                     >   มอสชิโน่
Misty Mynx                   >   มิสตี้ มิงซ์
NIKE                          >   ไนกี้
Old navy                     >   โอล นาวี , เนวี
Oasis                          >   โอเอซิส
PAN                           >   แพน
Polo                           >   โพโล , โปโล
Play boy                      >   เพลย์บอย
Puma                         >   พูม่า
Prada                         >   พราด้า , ปราด้า
Pena house                 >   พีน่าเฮ้าส์
Pierre Cardin               >   ปิแอร์ การ์แดง
Reebok                       >   รีบ็อก
Rolex                         >   โรเล็กซ์
Soda                          >   โซดา
Sonia Rykiel                >    โซเนีย ริเคียล
Sretsis                        >   สเรทซิส
S'fare                         >    เอสแฟร์
Timberland                 >   ทิมเบอร์แลนด์
Tom ford                    >   ทอมฟอร์ด
Tu'i                            >   ทูอี้
Triumph                     >   ไทรอัมพ์
Top shop                     >   ท็อปช็อป
Tommy Hilfiger             >   ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์
Uniqlo                        >   ยูนิโคล่
Volcom                       >   วอร์คอม
Versace                      >   เวอซาเช่
Victoria secret             >   วิคตอเรีย , วิคทอเรีย ซีเคร็ต
Wilson                       >   วิลสัน
Yves Saint Laurent       >   อีฟ แซงต์ โลรองต์
Yonex                        >   โยเน็กซ์
Zara                          >   ซาร่า


เครดิต: คุณ vivience ในพันทิปค่ะ  ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
คำอ่านยี่ห้อ brand name ภาษาอังกฤษ
logo brandname ต่างๆ